วันอังคารที่ 31 มีนาคม พ.ศ. 2558



บริการยืมระหว่างห้องสมุด

บริการยืมระหว่างห้องสมุด( interlibrary loan services )เป็นบริการสำคัญอย่างหนึ่งที่จัดทำขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้บริการได้ใช้สิ่งพิมพ์ที่ต้องการแม้ว่าสิ่งพิมพ์ขึ้นนั้นๆ ไม่มีในห้องสมุดที่ตนเป็นสมาชิก เพื่อส่งเสริมให้การศึกษาค้นคว้าวิจัยเป็นไปอย่างวกว้างขวางและรวดเร็วบริการยืมระหว่างห้องสมุด มีผู้ใช้คำจำกัดความไว้หลายท่าน แต่ส่วนใหญ่จะมีลักษณะใกล้เคียงกัน ดังนี้คือGilmer (1994) ให้ความหมายว่า การยืมระหว่างห้องสมุดหมายถึง ห้องสมุดหนึ่งให้ยืมวัสดุห้องสมุดของตนแก่ห้องสมุดอื่น ซึ่งไม่ใช่ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ใช้กับห้องสมุด แต่เป็นการติดต่อระหว่างห้องสมุด โดยห้องสมุดผู้ให้ยืมอาจจะอนุญาตให้ยืมฉบับจริงหรือจัดทำสำเนาไปให้ห้องสมุดผู้ยืมนอกจากนี้ Harrod (1990) ได้ให้ความหมายไว้ว่าการยืมระหว่างห้องสมุด คือ ผู้ใช้ห้องสมุดหนึ่งหรือเครือข่ายระบบสารนิเทศหนึ่งไปขอใช้บริการบริการยืมทรัพยากรห้องสมุดจากห้องสมุดอื่นที่ไม่ได้อยู่ในระบบการยืมของตนเองได้ โดยห้องสมุดส่วนใหญ่จะเข้าร่วมโครงการยืมระหว่างห้องสมุด อาจเป็นห้องสมุดในท้องถิ่น ห้องสมุดในภูมิภาคหรือห้องสมุดระหว่างประเทศก็ได้ซึ่งการขอยืมนี้ให้ขอผ่านบริการยืมระหว่างห้องสมุดที่จัดตั้งขึ้นมาในพื้นที่นั้นเพื่อทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการยืมประวัติและการพัฒนาประวัติศาสตร์โลกได้บันทึกไว้ว่าความเจริญก้าวหน้าของห้องสมุดจะควบคู่กับความเจริญรุ่งเรืองทางอารยธรรมโลก ดั้งนั้นวิวัฒนาการของห้องสมุดจึงปรากฏตามการแบ่งยุคอารยธรรมของประวัติศาสตร์โลก ดังต่อไปนี้       ........600 B.C.       อารยธรรมสมัยแรก
600 B.C.-200 B.C.       สมัยเฮเลนิค200 B.C.- A.D.400       สมัยเฮเลนิคและโรมันA.D. 400 - 1300         สมัยกลางและอาหรับ
A.D. 1300 - 1600       สมัยหัวเลี้ยวหัวต่อแห่งยุค
A.D. 1600 - 1700       สมัยศตวรรษที่ 17
A.D. 1700 - 1850       ยุควิทยาศาสตร์กายภาพ
A.D. 1850 - 1914       ยุคก้าวหน้า
A.D. 1914-                เริ่มต้นจากสงครามโลกครั้งที่1การยืมระหว่างห้องสมุดก็มีการพัฒนามาพร้อมๆกับการจัดตั้งห้องสมุดตั้งแต่อารยธรรมสมัยแรกซึ่งประวัติและพัฒนาการที่จะกล่าวต่อไปนี้ แสดงงให้เห็นถึงพัฒนาการดังกล่าวในอดีตจากที่ดำเนินการโดยวิธีระบบดั้งเดิม โดยใช้แรงงานคนเป็นหลักกระทั้งมาถึงยุคปัจจุบัน  ซึ่งเป็นยุคของโลกที่ไร้พรมแดนโดยใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมาจัดบริการห้องสมุดเพื่อตอบสนองความต้องการสารนิเทศของผู้ใช้ไม่ว่าจะอยู่แห่งใดของมุมโลกวัตถุประสงค์1)  เพื่อช่วยให้นักวิจัยได้ใช้วัสดุที่ตรงกับความต้องการของตน2)  เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดได้ใช้วัสดุที่ไม่สามารถหาได้จากแหล่งสารนิเทศสำหรับประเทศไทย ทบวงมหาวิทยาลัย(2534)ได้กล่าวไว้ดังนี้1)  เพื่อจัดหาและให้บริการสิ่งพิมพ์และโสตทัศนวัสดุระหว่างห้องสมุดให้เป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว กว้างขวาง และคุ้มค่ายิ่งขึ้น2)  เพื่อส่งเสริมการใช้ทรัพยากรร่วมกันอันจะเป็นการประหยัดงบประมาณของประเทศโดยที่ห้องสมุดบางแห่งไม่จำเป็นต้องซื้อสิ่งพิมพ์และโสตทัศนวัสดุประเภทที่มีผู้ใช้น้อยจากวัตถุประสงค์ดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าการยืมระหว่างห้องสมุดนั้น วัตถุประสงค์หลักก็เพื่อช่วยให้ผู้ใช้ห้องสมุดของตนได้รับสารนิเทศตรงกับความต้องการของเขา ส่งเสริมการค้นคว้าวิจัย และขยายขอบเขตความรู้ ตลอดจนให้มีการใช้สารนิเทศที่ไม่มีในห้องสมุดของตนให้กว้างขวางขึ้น อันเป็นการส่งเสริมการใช้ทรัพยากรร่วมกันระหว่างห้องสมุดได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลแนวปฏิบัติในการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกันเพื่อให้มีการปฏิบัติเกี่ยวกับการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกันของข่ายงานห้องสมุด มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการใช้ทรัพยากรห้องสมุดร่วมกัน ข่ายงานห้องสมุดจึงได้กำหนดแนวการปฏิบัติในการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกันโดยกำหนดหัวข้อปฏิบัติเกี่ยวกับ ความหมาย วัตถุประสงค์ ขอบเขตการยืม-คืน ผู้มีสิทธิใช้บริการ การสมัครเป็นสมาชิกบัตรสมาชิกและบัตรทะเบียนสมาชิกข่ายงานการกำหนดประเภทสิ่งพิมพ์และเวลาให้ยืม-รับคืน หน้าที่และความรับผิดชอบของผู้ยืม การยืมและวิธีปฏิบัติ แนวปฏิบัติในการตรวจสอบหนี้สิน และมาตรการในการติดตามหนี้สินของสมาชิกข่ายงาน แต่ในที่นี้ขอกล่าวเป็นเพียงบางข้อ บางตอนที่สำคัญๆ เพื่อให้ผู้อ่านมองเห็นภาพในการใช้บริการเท่านั้นขอบเขตการยืม-คืน1)  สิ่งที่ให้ยืม ได้แก่ สิ่งพิมพ์ของห้องสมุดสิ่งพิมพ์ของห้องสมุดที่จำเป็นในการศึกษา ค้นคว้าวิจัย ทั้งนี้ให้เป็นไปตามระเบียบข้อบังคับหรือประกาศของห้องสมุดสมาชิกข่ายงานแต่ละแห่ง2)  ผู้ยืมมีสิทธิยืมสิ่งพิมพ์ไก้เฉพาะของห้องสมุดกลาง สมาชิกข่ายงาน เท่านั้นผู้มีสิทธิในการใช้บริการผู้มีสิทธิใช้บริการยืม-คืน ได้แก่ อาจารย์ นักวิจัย ข้าราชการ และนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษา ที่สังกัดในสถาบันของห้องสมุดสมาชิกข่ายงานการกำหนดประเภทสิ่งพิมพ์และเวลาให้ยืม-รับคืน1)  ผู้ยืมมีสิทธ์ยืมหนังสือจากห้องสมุดกลางของสมาชิกข่ายงาน ทั้งหมดร่วมกันครึ่งละไม่เกิน 3 เล่ม ต่อ 1 สัปดาห์2)  กำหนดประเภทสิ่งพิมพ์ที่ให้ยืมให้เป็นไปตามระเบียบ ข้อบังคับหรือประกาศของห้องสมุดแต่ละแห่งประโยชน์ของการบริการยืม-คืน ระหว่างห้องสมุด1)  ผู้ใช้บริการสามารถยืมสิ่งพิมพ์จากห้องสมุดสมาชิกข่ายงานได้ด้วยตนเอง เป็นการอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ และทำให้การใช้สิ่งพิมพ์ระหว่างห้องสมุดสมาชิกหน่วยงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว กว้างขวาง และคุ้มค่ายิ่งขึ้น2)  การส่งเสริมให้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน อันจะเป็นการประหยัดงบประมาณของห้องสมุด3)  การส่งเสริมให้มีความสำพันธ์อันดีระหว่างห้องสมุด ในการให้บริการร่วมกัน4)  สามารถตอบสนองความต้องการวัสดุการสารสนเทศของผู้ใช้บริการในการศึกษาค้นคว้า5)  ช่วยให้เกิดการศึกษาค้นคว้าวิจัยอย่างกว้างขวาง6)  ช่วยให้ประหยัดงบประมาณในการจัดหาวัสดุสารสนเทศ7)  ช่วยแก้ปัญหาการขาดแหล่งข้อมูลในการศึกษาค้นคว้า8)  ทำให้มีสัมพันธภาพที่เกิดขึ้นระหว่างห้องสมุดที่มีความร่วมมือในการใช้ทรัพยากรร่วมกันบริการยืมระหว่างห้องสมุดในประเทศไทยการยืมระหว่างห้องสมุดในประเทศไทยในระยะแรกน่าจะมาจากความสัมพันธ์ระหว่างตัวบุคคล เช่น ผู้บริหารห้องสมุดหรือบรรณารักษ์ ซึ่งมีการติดต่อขอยืมวัสดุสิ่งพิมพ์ของกันและกันโดยอาศัยความสัมพันธ์ส่วนตัว และมีการให้ยืมจากการติดต่อทางราชการ ซึ่งมีการตอบสนองโดยพิจารณาเป็นรายๆ ไปตามความเหมาะสมโดยไม่มีระเบียบแบบแผน และเรียกได้ว่าระยะนั้นมีความร่วมมือระหว่างห้องสมุดน้อยมากความร่วมมือเพื่อบริการผู้ใช้อย่างมีประสิทธิภาพ ปรากฏเห็นเด่นชัดขึ้นเมื่อที่ประชุมผู้บริหารห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษาได้จัดให้มีการสัมมนา เรื่อง ความร่วมมือระหว่างห้องสมุดมหาวิทยาลัยครั้งที่ 1 ระหว่างวันที่ 16-19 พฤษภาคม พ.ศ.2522 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหาแนวทางความร่วมมือในด้านบริการระหว่างบรรณารักษ์ระดับหัวหน้าฝ่าย ผลจากการสัมมนาครั้งนี้ได้เป็นแนวทางนำไปสู่ความร่วมมือระหว่างห้องสมุดในด้านต่างๆ อันได้แก่ การบริหารการจัดทำข้อมูลคู่มือบอกแหล่งวัสดุ การปรับปรุงหัวเรื่องการจัดหาสิ่งพิมพ์ การจัดทำดัชนีวารสารและหนังสือพิมพ์ การให้บริการยืมระหว่างห้องสมุด ซึ่งสาระสำคัญที่เกี่ยวกับการยืมระหว่างห้องสมุด มีดังนี้1)  พิจารณาร่างระเบียบปฏิบัติการยืมระหว่างห้องสมุดสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.25222)  เห็นควรให้มีบริการยืมโสตทัศน์ระหว่างสถาบันอุดมศึกษา3)  พิจารณาจัดทำแบบกรอกรายการยืมระหว่างห้องสมุดของสื่อสิ่งพิมพ์และสื่อโสตทัศน์ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

บรรณานุกรม
นายิกา  เดิดขุนทด.  (2540).  การยืมระหว่างห้องสมุด: ทฤษฎีและการปฏิบัติ.  ขอนแก่น:
 สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.
บริการยืมระหว่างห้องสมุด.  (...).  ค้นเมื่อ กุมภาพันธ์ 1, 2558,
 จาก http://www.library.kku.ac.thบริการยืมระหว่างห้องสมุดต่างสถาบัน.  (2556).  ค้นเมื่อ กุมภาพันธ์ 1, 2558,  จาก           http://www.main.library.ac.thมะลิวัลย์  น้อยบัวทิพย์.  (2545, มกราคม-ธันวาคม).  บริการยืมระหว่างห้องสมุด
  สำนักวิทยบริการ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.  วารสารนิเทศ,  9,  (1-2),  หน้า 75-95.
รวีวรรณ  ขำพล.  (2547-2550).  บริการยืม-คืนระหว่างห้องสมุดร่วมกันข่ายงาน  ห้องสมุด มหาวิทยาลัยส่วนภูมิภาค (PULINET).  ลานจันทร์,  9-12,  (1-2),  หน้า 30-39.

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2558

ความประทับใจที่มีต่อสาขาบรรณารักษศาสตร์ และสารสนเทศศาสตร์

ความประทับใจที่มีต่อสาขาบรรณารักษศาสตร์

และสารสนเทศศาสตร์


การเรียนสาขานี้ทำให้เราเข้าห้องสมุดบ่อยขึ้น ซึ่งตัวเราเองเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสืออยู่แล้ว แต่ส่วนมากจะอ่านจำพวกนิยายลึกลับ ซึ่งเรียนจบมาก็จะได้เป็นบรรณารักษ์ที่อยู่ให้ห้องสมุด ทำงานบริการผู้ใช้บริการ ได้มีโอกาสทำนู้นทำนี่ซึ่งมีหน้าที่หลักในการค้นหาและจัดเตรียมสารสนเทศ แล้วนำมาจัดหมวดหมู่ตามหัวเรื่องในแต่ละสาขาวิชาที่มีผู้ใช้บริการต้องการ รวมทั้งยังเป็นผู้ที่คอยให้คำแนะนำปรึกษาในการเข้าถึงสารสนเทศตามแต่ละสาขาวิชา ซึ่งเป็นการอำนวยประโยชน์ให้กับผู้ใช้บริการที่ต้องการสารสนเทศในสาขาใดสาขาหนึ่งในลักษณะที่ลึกซึ้งและเฉพาะเจาะจง บรรณารักษ์จะเป็นผู้ตอบสนองความต้องการสารสนเทศในสาขาต่างๆให้กับผู้ใช้บริการได้เป็นอย่างดี ตั้งแต่เรียนสาขานี้มาได้เรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ได้ความรู้ที่อาจารย์ทุกท่านมอบให้  ได้ไปศึกษา
ดูงานในสถานที่ต่างๆเป็นการเพิ่มความรู้ความต้องการที่เราจะนำมาพัฒนาห้องสมุดที่มหาวิทยาลัยของเราได้ และได้ประสบการณ์จากการที่เราได้ไปดูงาน รวมถึงได้เที่ยวไปในตัว ได้มิตรภาพจากเพื่อนๆ